ลีน่าจัง จังจรรยา อินฟูลเอนเซอร์ ตัวแม่สายว๊าก ยิ่งด่ายิ่งดัง ด่าใครคนนั้นดัง

ลีน่าจัง จังจรรยา หากจะถามว่า อินฟูลเอนเซอร์ หรือคนที่มีชื่อเสียงมากเป็นผู้หญิงที่ไม่ใช่ดารา นักร้อง นักแสดง เน็ตไอดอล สักคนหนึ่งใครดี เราต้องยอมรับว่า ลีนาจัง ถือว่าเป็นคนนั้น ทุกครั้งที่เธอออกมาพูดอะไรสักอย่าง เกี่ยวกับรัฐบาล หรือสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคม แม้จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ก็ต้องหันมาฟังเธอนะ ว่าตามตรงชีวิตของผู้หญิงคนนี้ เธอสู้มาโดยตลอด เป็นแบบอย่างผู้หญิงสู้ชีวิตคนหนึ่งเลยล่ะ ไม่เชื่อตามไปดูเรื่องราวของเธอกัน

ชื่อนามสกุลจริง ลีนา แซ่จัง เกิดวันที่ 14 กันยายน 2502 ปัจจุบันอายุ 63 ปี บ้านเกิดอยู่ที่กรุงเทพ ประเทศไทย ในครอบครัวเธอเป็นลูกคนที่ 9 จากทั้งหมด 12 คนในครอบครัว เรื่องราวชื่อของเธอถือว่าน่าสนใจมาก แม้จะเป็นชาวจีนแต่ชื่อลีนา ถือว่าแปลกมาก เธอเคยเล่าให้ฟังว่า ที่มาของชื่อเธอ มาจากตอนที่คุณพ่อซึ่งเป็นคนจีนอพยพ เข้ามาในไทยแล้วทำธุรกิจขายน้ำตาลสด ไปจดทะเบียนเกิดที่อำเภอ แล้วไม่รู้จะตั้งชื่อเป็นภาษาไทยว่าอย่างไรดี ปรากฎว่าตอนนั้นมีภาพยนตร์อินเดียเรื่องหนึ่ง นางเอกของเรื่องนั้นชื่อว่า ลีน่า ก็เลยเอาชื่อนี้เป็นชื่อไทยของเธอ ทางด้านนามสกุล จังจรรจา มาเปลี่ยนตอนที่จะลงรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพ ตอนปี 2547 ทางด้านการเรียนไม่ธรรมดานะ เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะนิติศาสตร์ ตอนนี้เธอเป็นทั้งเจ้าของธุรกิจ และทนายความด้วย

เส้นทางชีวิต ลีน่าจัง จังจรรยา

ลีน่าจัง ต้องยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้เธอคือนักสู้ตัวจริง การไต่เต้ามา จากแทบไม่มีอะไรเลย จนถึงจุดนี้ได้ไม่ธรรมดา ชีวิตของเธออาจจะไม่ได้เรียบหรู โรยด้วยกลีบกุหลายมากนัก ต้องสู้มาอย่างมากมาย ในหลายบทบาทด้วย เอาบทบาทเจ้าของธุรกิจกันก่อน เธอเป็นเจ้าของอาณาจักรผลิตภัณฑ์ความงามในแบรนด์เครื่องสำอางชื่อว่า ไฮโซไซตี้ ที่อยู่ประตูน้ำเซนเตอร์ แหล่งรวมเสื้อผ้า เครื่องสำอางใหญ่ที่สุดของกรุงเทพ ไม่เท่านั้นเธอยังเป็นคนแรกอีกด้วยที่บุกเบิกการทำเคเบิ้ลทีวีของตัวเอง เธอมีช่องของตัวเองเพื่อโปรโมตรายการ และสินค้า ต้องยอมรับว่าสินค้าของเธอแม้ว่าจะราคาไม่แพงแต่คุณภาพเกินราคามากๆ หลายคนซื้อไปแล้วใช้ก็ติดใจ

บทบาททางด้านการแสดงก็มีด้วย เธอได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลหนัง หอแต๋วแตก ของพี่พจน์ อานนท์ ไม่ว่าจะเป็น หอแต๋วแตก แหกกระเจิง และภาพยนตร์อื่นอย่างเรื่อง แต๋วเตะตีนระเบิด และเรื่องคืนรัง

บทบาทเด่นที่สุดของเธอคงเป็นเรื่องการเมืองที่เธอกล้าวิพากย์ วิจารณ์บุคคลในแวดวงการเมืองอย่างตรงไปตรงมา เผ็ดร้อน สุดโต่ง และแซ่บสุดสามโลก คำวิจารณ์ของเธอแม้ว่าจะแรง แต่ก็ตรงใจใครหลายคนที่อยากจะพูดแบบนั้นแต่ก็ทำไม่ได้ จุดหนึ่งทางด้านการเมืองที่น่าสนใจก็คือการลงสนามเลือกตั้ง ลีน่าจัง เคยลงสนามเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา เมื่อปี 2549 แต่ไม่ได้รับเลือก แล้วก็มาลงสมัครอีกครั้งแบบอลังการมากก็คือ การลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2551 ตอนนั้นลีน่าจังได้เบอร์ 7 ถือว่าเป็นสีสันของการหาเสียงทั้งนโยบาย และการลงพื้นที่สร้างสีสันได้ตลอด แต่คราวนั้นไม่ได้รับการเลือกตั้ง ก่อนที่เธอจะกลับมาเป็นตัวเลือกในการลงสมัครผู้ว่าราชาการกรุงเทพอีกครั้ง หลังการลาออกของ อดีตผู้ว่า อภิรักษ์ โกษะโยธิน แต่ก็ไม่ได้รับเลือกอีก

ปัจจุบันแม้ว่าเธอจะไม่ได้หันมาทำงานการเมืองเต็มตัว แต่การวิจารณ์ของเธอออกผ่านสื่อโซเชียล ยังสามารถเป็นข่าวเป็นกระแสได้ดีทีเดียว การวิจารณ์ที่ตรงไปตรงมา ด่าเป็นด่า ตำหนิกันแบบไม่ไว้หน้า ไม่เกรงใจ ทำให้ใครหลายคนที่แม้จะไม่ชอบเธอ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ใจกล้า ที่พูดสิ่งนั้นออกมาได้ นี่แหละความกล้าหาญ ของคุณแม่ลีน่าจัง จังจรรยา