รีวิวซีรีส์ Sisyphus รหัสลับข้ามเวลา มาอีกครั้งสำหรับซีรีส์เกี่ยวกับการเล่นเรื่องของเวลาที่มีธีมย้อนเวลากลับไปมาระหว่างปัจจุบันกับ อดีต แน่นอนว่าเราอาจจะได้เห็นกันบ่อยแล้ว แต่งานนี้จะมีอะไรให้เรารู้สึกแปลกกว่าเดิม เราจะมารีวิวให้ฟังกัน Sisyphus รหัสลับข้ามเวลา บอกได้เลยว่าเรื่องนี้มีดีกว่าที่คิด ชื่ออังกฤษ Sisyphus:The Myth / Sisyphus ชื่อไทย รหัสลับข้ามเวลา ผู้กำกับการแสดง จิน ฮยอก คนเขียนบท ลี เจอิน , จอน ชานโอ นักแสดงนำ โจซึงอู, พัคชินฮเย, จองฮเยอิน, ฮอจุนซอก แนวซีรีส์ แอคชั่น ดราม่า แฟนตาซี ไซไฟ จำนวนตอน 16 ตอน ของซีซั่นแรก ปัจจุบันสามารถรับชมได้ที่ Netflix ออกฉายครั้งแรก กุมภาพันธ์ 2021
รีวิวซีรีส์ Sisyphus รหัสลับข้ามเวลา
เรื่องราวกาลเวลาครั้งนี้ เล่าถึงตัวเอกคนหนึ่งนามว่า ฮันแทซุล เขาเป็นวิศวกรที่มีความอัจฉริยะเป็นเลิศ เขารวมมือกับพี่ชายทำผลงานนวัตกรรมขึ้นมามากมาย จนกลายเป็นการเปิดบริษัทร่วมกัน ก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลายลงมาจากการเสียชีวิตของพี่ชายเขา ฮันแทซัน จากนั้นเขาก็กลายเป็นคนเสเพล เปลี่ยนไปคนละคนแบบที่ใครก็จำไม่ได้เลย เรื่องราวมาพลิกผันตรงที่ เขาได้เจอกับหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า คังซอแฮ ที่เธอบอกว่ามาจากอนาคตด้วยจุดประสงค์บางอย่าง นั่นทำให้เขาและเธอที่มาเจอกัน ได้ตามหาปริศนาการตายของพี่ชายของเขาเอง บวกกับการค้นหายิ่งทำให้เขาพบกับความจริงบางอย่างอีกด้วย ระห่างการค้นหาความจริงนั้น เขาจะได้เจอกับ กองกำลังที่เรียกตัวเองว่า กองควบคุม เขาเป็นใคร มาทำไม แล้วเรื่องราวที่ผูกปมแน่นขึ้นจะแก้ไขอย่างไร ต้องไปลุ้นกันต่อ
เรื่องแรกที่หากเป็นการเล่นเกี่ยวกับเวลา คงต้องเป็นเรื่องการอธิบายแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ของเรื่องว่าจะเป็นอย่างไร อธิบายการข้ามเวลาไปมาอย่างไรด้วย ตรงนี้เราให้คะแนนเต็มสิบเลย แม้ว่าจะไม่ค่อยเก่งเรื่องวิทยาศาสตร์เท่าไร แต่ก็เข้าใจถึงแนวคิดทางวิทยาศาสตร์เรื่องการข้ามเวลาที่จะสื่อได้ดี จนทำให้เราสนุกเข้าใจตามไปด้วย ส่วนเรื่องปมของพี่ชายที่มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่อันนี้ดี แม้เราจะพอเดาได้ว่าจะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น แต่เอาจริงมันกลับพลิกผันกลับไปมากกว่านั้น จนทำให้เราต้องอุทานร้องเฮ้ย ได้ทีเดียว อันนี้ดี สมกับเป็นหนังสืบสวนสอบสวนให้เราคิดตามต่อมาเป็นเรื่องของ กราฟฟิค ซีจี ที่เรื่องนี้ต้องเน้นมากหน่อย เพราะเป็นการข้ามเวลาไปมา แล้วไหนจะต้องเอฟเฟกต์ตรงอื่นอีก ถามว่าทำได้ดีไหม เราให้แค่ว่าสอบผ่านเท่านั้นเอง ซีจีหลายจุดทำได้ดี แต่บางจุดก็เกิดภาพลอยจนเราต้องตกใจถึงความผิดพลาดของงานที่ปล่อยออกมาได้เฉยเลย แต่ก็เข้าใจว่าอาจจะมาจากงานเร่งจนขาดรายละเอียดบางส่วนไป
มาว่ากันตรงส่วนของพระนางกันบ้าง คู่นี้ถือว่าจับกันมาได้ลงตัวดี ฝ่ายชายเอง ก็เล่นในบทบาทเป็นคนที่ดำดิ่งอยู่กับความเสียใจได้ดี ทำให้เราเชื่อในความโทรม ความเครียด ความเสียใจ กดดันของเขาในการเสียครอบครัวได้ดี ก่อนจะเริ่มฟื้นฟูขึ้นมาทีละนิด กับการวิ่งตามหาความจริง ส่วนนางเอกก็เล่นได้ดีมาก โดยเฉพาะจุดเด่นเรื่องของการเน้นแอคชั่นที่เตะต่อย ยิงปืน ดูทะมัดทะแม่งดีมาก ส่วนความน่ารัก อันนี้ก็ยอมเลย ชุดไหน สรุป จัดว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีธีม เวลาได้น่าสนใจมาก สนุก แอคชั่น ดราม่า ไซไฟได้สมกับที่การันตีกันมาทีเดียว ใครสนใจไปกดดูต่อได้ที่ Netflix เรื่องนี้เราเชียร์
ซีรีส์จาก Netflix