รีวิว ซีรีส์ Riverdale เมืองคนบาป ความตาย ฆาตกร และการเมืองหายนะ

Riverdale ซีรีส์ไตรภาคยอดนิยม เรื่องราวอันลึกลับของเมืองคนบาป จากเหตุการณ์คนหายจนกระทั่งบานปลายสู่การเมืองในเวลาต่อมา โดยซีรีส์เรื่องดังกล่าวมีจำนวนมากถึง 5 ซีซั่นด้วยกัน รวมทั้งหมดจำนวน 86 ตอน รับชมกันแบบยาวๆ เพลินๆ ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Netflix เท่านั้น ผลงานการแสดงของนักแสดงชื่อดังมากมาย ยกตัวอย่างเช่น โคล สเปราซ์ , ลิลี่ ไรน์ฮาร์ต , คามิลา เมนเดส , เคเจ อาปา และมาเดอลีน เพทสช์ เป็นต้น จากฝีมือการกำกับของ “ร็อบ เซเดนแกลนซ์” และเป็นผลงานการสร้างสรรค์ของ “โรเบอร์โต อาไกวร์ ซาคาซา” เช่นเดียวกัน ด้วยงบการลงทุนผลิตระดับมหาศาล

เมื่อถามถึงซีรีส์ไตรภาคยอดนิยมอันดับต้นๆ ของแอพพลิเคชั่น Netflix นอกจากซีรีส์ฝรั่งชื่อดัง อย่างเรื่อง “The End of the F***ing World” และ “Elite” รวมไปถึง “Sex Education” ซีรีส์อีกเรื่องที่นึกชื่อออกเป็นลำดับแรกๆ เลยก็คือ Riverdale แม้ว่าบางส่วนอาจจะยังเทียบเคียงกับซีรีส์ฝรั่งเรื่องอื่นๆ ไม่ได้ แต่ถือว่ากระแสร้อนแรงไม่แพ้กัน หลังจากออกอากาศมายาวนานกว่า 5 ซีซั่น แฟนๆ ยังคงให้การตอบรับเป็นอย่างดีเสมอมา ทะยานขึ้นมาติดอันดับท็อปของแอพพลิเคชั่น Netflix อยู่บ่อยครั้ง จนเกิดกระแสเรียกร้องให้สร้างภาคต่อตามมาอยู่ตลอด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการออนแอร์ของซีซั่น 5 แต่ในอนาคตจะมีซีซั่น 6 อีกหรือไม่นั้น คงต้องติดตามกันต่อไป

ซีรีส์วัยรุ่นอเมริกาเรื่อง Riverdale มาพร้อมกับเนื้อหาค่อนข้างแปลกใหม่ กล้าเล่นกับประเด็นสังคมที่รุนแรงมากกว่าเรื่องอื่นๆ โดยเป็นเรื่องราวการหายตัวไปของ “เจสัน บลอสซัม” เหตุการณ์ครั้งดังกล่าวเปลี่ยนแปลงให้เมืองสุดสวยหรู กลายเป็นเมืองแห่งความโศกเศร้า ท่ามกลางเงื่อนงำมากมายนับไม่ถ้วน แน่นอนว่าหลังจาก “เจสัน บลอสซัม” หายตัวไปจากเมืองอย่างลึกลับ นำมาสู่เหตุการณ์อันน่าตื่นเต้นลุ้นระทึก เกิดการรวมตัวกันของเพื่อนๆ กลุ่มหนึ่ง ซึ่งพยายามร่วมมือกันแก้ไขปริศนา ก่อนภัยอันตรายจะเดินทางมาเยือนในอีกไม่ช้า กลายเป็นภารกิจสุดเข้มข้นดุเดือด ทำเอาผู้ชมนั่งลุ้นกันอย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว

ก่อนอื่นขอเตือนก่อนว่า หากเพื่อนๆ คนไหน อยากรับชมซีรีส์วัยรุ่นอเมริกาเรื่อง Riverdale ควรเตรียมตัวเตรียมเวลาให้พร้อมก่อน เนื่องจากซีรีส์ดังกล่าวประกอบไปด้วยจำนวนมากกว่า 5 ซีซั่นด้วยกัน รวมกันอยู่ที่ 86 ตอน คงต้องใช้ระยะเวลาหลายวันในการรับชมจนจบครบทุกฤดูกาล ส่วนตัวมองว่าซีซั่นแรกเหมือนจะเป็นการปูทางไปสู่ซีซั่นอื่นๆ หลังจากนั้น ซึ่งสามารถผลิตออกมาได้อย่างมีคุณภาพมาก เนื้อเรื่องมีความสนุกเข้มข้น ฉากลุ้นระทึกค่อนข้างเยอะ เอาไปเลย 8/10 คะแนน แต่หากใครไม่ค่อยมีเวลาว่าง แนะนำว่าควรหาจังหวะเหมาะๆ แล้วค่อยมารับชมทีเดียวจนจบ การันตีเลยว่าทุกคนต้องไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน